ทำไมโครงการใหญ่ ๆ เช่น การประปา การไฟฟ้า ระบบการขนส่ง
หันมาใช้ การชุบ Hot dip galvanized

เปิดเหตุผลโครงการเมกะโปรเจกต์ถึงเลือกชุบ  Hot dip galvanized

ชุบ hot dip galvanized

ปัจจุบันนี้เราจะพบเห็นโครงการเมกะโปรเจกต์ระดับประเทศหรือโครงการขนาดใหญ่ อาทิ การประปา การไฟฟ้า ระบบขนส่ง รวมถึงอุตสาหกรรมโทรคมนาคม หันมาใช้โครงสร้างของโครงการที่ใช้สังกะสีชุบกัลวาไนซ์แบบชุบ Hot Dip Galvanized เกือบแทบทั้งสิ้น ก็เพราะการชุบ Hot Dip Galvanized มีข้อดีต่างๆ มากมาย ที่เจ้าของโครงการต่างๆ ควรรู้เพื่อพิจารณาประกอบการตัดสินใจเลือก ชุบ Hot Dip Galvanized

ก่อนอื่นเรามาเริ่มต้นที่ทำความรู้จัก “Galvanizing” เป็นการนำมาเคลือบผิวด้วยสังกะสี ใช้เพื่อป้องกันการกัดกร่อน ปัจจุบันแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

  • Hot Dip Galvanizing หรือเป็นการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน
  • Zinc Electroplating (Electro- Galvanizing) การชุบสังกะสีด้วยไฟฟ้า โดยการจุ่มเหล็กกล้าลงในอ่างอิเล็กโทรไลต์ที่มีซิงค์ ไฟฟ้าจะเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาเคมีระหว่างอิออนในซิงค์ ต่อพื้นผิวของเหล็ก
  • Zinc – Rich Painting (Cold Galvanizing) การพ่นผงที่มีปริมาณสังกะสีในปริมาณสูง ซึ่งจะเกิดการสร้างเป็นชั้นเคลือบสังกะสีแบบกึ่งต่อเนื่อง ขึ้นเมื่อผงที่พ่นไปแห้ง
  • Zinc thermal spraying (Zinc metallizing) หัวพ่นสังกะสีจะหลอมเหลว และสังกะสีหลอมเหลวที่ถูกพ่นด้วยความเร็วสูง

การชุบ Hot Dip Galvanized คืออะไร

การชุบ Hot Dip Galvanized (Hot Dip Galvanizing เรียกโดยย่อว่า HDG) หรือเรียกว่าเป็นการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน เป็นกระบวนการชุบเหล็กด้วยสังกะสีที่มีวิธีการเดียวกับเหล็กชุบสังกะสี แต่เป็นกระบวนการการจุ่มเหล็กลงไปในบ่อสังกะสีในอุณหภูมิสูงอยู่ที่ประมาณ 445 ถึง 465 0c (830 ถึง 870 ๐F) ซึ่งเรียกว่าเป็นการ Hot Dip ชั้นสังกะสีจะยึดติดกับพื้นผิวของชิ้นส่วนเหล็ก เกิดเป็นชั้นของโลหะผสมกับการเคลือบผิวชิ้นงานที่หนาขึ้น (zinc – iron alloy layers) และชั้นเคลือบที่เกิดขึ้นมีความแข็งแรงและคงทนป้องกันสนิมได้มากขึ้น

สำหรับความหนาชั้นเคลือบสังกะสีตามมาตรฐาน ISO 1461 สำหรับเหล็กกล้าโครงสร้างที่ผ่านกระบวนการ ชุบ Hot Dip Galvanized ปัจจุบันมีด้วยกัน ดังนี้

  • ความหนาของชิ้นงานเหล็กกล้าโครงการ น้อยกว่า 1.5 มิลลิเมตร ความหนาของชั้นเคลือบสังกะสี 45 ไมครอน
  • ความหนาของชิ้นงานเหล็กกล้าโครงการ มากกว่าหรือเท่ากับ 1.5- 3 มิลลิเมตร ความหนาของชั้นเคลือบสังกะสี 55 ไมครอน
  • ความหนาของชิ้นงานเหล็กกล้าโครงการ มากกว่า 3 -6 มิลลิเมตร ความหนาของชั้นเคลือบสังกะสี 70 ไมครอน


ข้อดีการเลือกการชุบ Hot Dip Galvanized

  1. ลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในระยะยาว
    หากเปรียบเทียบแง่ของต้นทุน การชุบ Hot Dip Galvanized แม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่าการชุบ electro-galvanized หรือการเคลือบสังกะสีด้วยไฟฟ้า แต่เนื่องจากกระบวนการชุบ Hot Dip Galvanized ที่เคลือบป้องกันการกัดกร่อนที่มีมากกว่า โดยชั้นเคลือบจะมีความหนาตั้งแต่ 60-250 ไมครอน ส่งผลดีต่อการใช้งานระยะยาว ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในกรณีที่ต้องบำรุงรักษา โดยโครงการขนาดใหญ่จึงตัดสินใจเลือกการชุบ hotdip galvanize

  2. ความต้านทานการกัดกร่อน การชุบ Hot Dip Galvanized
    ช่วยให้โครงสร้างของโครงการขนาดใหญ่ มีอายุการใช้งานได้เกิน 50 ปี เพราะกระบวนการเคลือบสังกะสีหนาขึ้น 5 ถึง 10 เท่า เนื่องจากการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจะหลอมรวมสังกะสีเข้ากับโลหะพื้นฐานและสร้างชั้นโลหะผสมที่มีความแข็งและทนทานต่อการเสียดสีทั่วไป ในทางกลับกัน การชุบกัลวาไนซ์ด้วยไฟฟ้าจะทำให้เกิดการเคลือบผิวบางๆ เท่านั้น ทำให้มีความหนาอยู่ประมาณ 6-10 ไมครอนเท่านั้น

  3. กระบวนการชุบที่ง่ายและรวดเร็ว
    การชุบ Hot Dip Galvanizedช่วยให้โครงสร้างของโครงการขนาดใหญ่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากกระบวนการชุบมีขั้นตอนไม่ซับซ้อน เพราะเป็นการเคลือบกัลวาไนซ์ที่ใช้การจุ่มเพียงครั้งเดียวเพื่อป้องกันโลหะ จากนั้นก็ทาสีหรือพ่นเคลือบส่วนอื่น และใช้เวลาในการอบแห้งจะลดลง และรอในการเซ็ตตัว ทำให้โครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้ระยะเวลาก่อสร้างระยะเวลานาน ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเสร็จภายใต้ระยะเวลาตามกำหนด

  4. บำรุงรักษาง่าย
    สังกะสีกัลวาไนซ์ที่ผ่านชุบ Hot Dip Galvanized มาแล้วในด้านของการบำรุงรักษา ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีที่รุนแรงในการบำรุงรักษาหรือป้องกันการกัดกร่อน เพราะการกัลวาไนซ์ที่ ชุบ Hot Dip Galvanized ทำให้มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อน ทุกส่วนของผลิตภัณฑ์สังกะสีได้รับการปกป้อง รวมถึงรอยหัก มุมที่แหลมคม การบำรุงรักษาจึงทำความสะอาดปีละครั้งเพื่อให้เหล็กดูดี ทำให้ค่าบำรุงรักษาโครงการขนาดใหญ่จึงค่อนข้างต่ำ

  5. การติดตั้งที่เร็วขึ้น
    สังกะสีกัลวาไนซ์ที่ผ่านการ ชุบ Hot Dip Galvanized ช่วยให้การก่อสร้างที่เร็วขึ้น เนื่องจากจะเกิดการแข็งตัวได้อย่างรวดเร็ว การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าชิ้นส่วนเหล็กทั้งหมดได้รับการเคลือบทั้งภายในและภายนอก ตลอดจนมุมอับและช่องแคบ อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาในการปรับแต่งพื้นผิวให้เนียบเรียบหรือเสียเวลาการตรวจสอบรับงาน ช่วยให้การติดตั้งอย่างรวดเร็ว พร้อมใช้งานและดำเนินการก่อสร้างได้ทันที

  6. คุณลักษณะและการใช้งานของท่อชุบสังกะสีกัลวาไนซ์ (Hot-Dip Galvanized)
    นอกจากทนทานการกัดกร่อนได้มาก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ใกล้ทะเล หรือในโรงงานที่สารเคมี หรือใช้งานโครงสร้างและงานรับน้ำหนัก รับความดันได้ดี รวมทั้งงานเดินท่อลำเลียงของเหลว ท่อประปา ท่อชลประทาน งานเดินสายไฟนอกอาคาร และงานขึ้นรูปโครงสร้างต่างๆ ให้มีความแข็งแรงทนทาน ระบบส่งน้ำประปา และงานสาธารณูปโภค งานประมูลราชการ เป็นต้น

  7. มีอิสระในการออกแบบสวยงามตามความต้องการ
    การชุบ Hot Dip Galvanized แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพการป้องกันการกัดกร่อนแล้ว แต่ในด้านของการดีไซน์นั้นสังกะสีแบบจุ่มร้อนยังช่วยให้มีอิสระในการออกแบบมากขึ้น ทั้งความสามารถทำให้โค้งงอ โค้ง และควบคุมได้ง่าย และที่สำคัญสามารถดีไซน์ภายในโครงการได้อย่างสวยงาม เรียกว่าเป็นกัลวาไนซ์ที่ทำได้เกือบทุกรูปร่างและขนาด

  8. สำหรับโครงสร้างเหล็กโครงสร้างอาคาร
    พื้นผิวสังกะสีแบบจุ่มร้อน หรือ ชุบ Hot Dip Galvanized อาจมีค่าสัมประสิทธิ์การลื่นต่ำ เนื่องจากผิว แต่กัลวาไนซ์สามารถปรับโครงสร้างสังกะสีให้สามารถเป็นสลักเกลียว รู และข้อต่อมากขึ้น หรือใช้สีกับพื้นผิวสังกะสีเพื่อให้ได้คุณสมบัติการลื่น เพียงแค่นี้ก็ได้โครงสร้างอาคารที่แข็งแรงและกันลื่นได้ด้วย

  9. ความน่าเชื่อถือ
    เนื่องจากสังกะสีกัลวาไนซ์ที่ผ่านมาการ ชุบ Hot Dip Galvanized ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ได้ตามมาตรฐาน มอก. 3198-2564 ซึ่งเป็นมาตรฐานครอบคลุมข้อกำหนดทั่วไป สำหรับการเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธีจุ่มร้อนบนชิ้นงานผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นงานผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์ รวมถึงการซ่อมแซมพื้นที่ผิวที่เคลือบไม่ติดและพื้นที่ชั้นเคลือบเสียหาย ทำให้สังกะสีกัลวาไนซ์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมาตรฐานการผลิตที่น่าเชื่อถือ และยังสามารถคาดเดาอายุการใช้งานได้

  10. ตอกย้ำการใส่ใจสิ่งแวดล้อม
    การชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อนยังเป็นประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม เพราะหลักของการชุบสังกะสีแบบจุ่มร้อน เป็นกระบวนการตามธรรมชาติที่มีความปลอดภัย จากประสิทธิภาพทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เกิดการหมุนเวียนการใช้งานที่น้อยเมื่อเทียบกับการใช้ผลิตภัณฑ์อื่นๆมาเป็นโครงสร้าง และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100 % โดยพบว่า สังกะสีและเหล็กกล้าสามารถนำกลับมาใช้ใหม่เป็นผลิตภัณฑ์สังกะสีและเหล็กกล้าได้ครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งวัสดุรีไซเคิลในโลก 98 % ของเหล็กทั้งหมดถูกรีไซเคิลในปัจจุบัน

ด้วยข้อดีของการชุบ Hot Dip Galvanized ที่มีมากมายเหล่านี้ จึงไม่แปลกที่โครงการเมกกะโปรเจกต์หรือโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ เลือกลงทุนใช้โครงสร้างที่ชุบ ชุบ Hot Dip Galvanized เหมาะกับการนำเป็นส่วนประกอบของสถานที่กลางแจ้ง เป็นโครงสร้างของสิ่งปลูกสร้าง โครงสร้างหลังคา โครงสร้างผนังทั้งภายในและภายนอก หรือบริเวณที่ต้องเจอความชื้นอยู่เสมอ เช่น การประปา นั่นเอง

หากคุณเจ้าของโครงการต่างๆ ที่กำลังมองหาสังกะสี ชุบ Hot Dip Galvanized แสงเจริญกัลวาไนซ์กรุ๊ป ให้บริการด้านงานชุบกัลวาไนซ์ ชุบ Hot Dip Galvanized ชุบสังกะสี ชุบเคลือบผิวโลหะ ขายเหล็กสังกะสี โดยโรงงานชุบกัลวาไนซ์ที่มีบ่อชุบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยพร้อมประสบการณ์ที่ยาวนาน


สนใจบริการ ชุบ Hot-Dip Galvanization หรือ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

โทร : 02-599-4115, 081-839-3049
LINE ID : @SCGgalvanize
Facebook : @Sangchareongroup